• Hotline: 087-984-2273

รูปแบบการทำงานของระบบ loop anti passback ของไม้กั้นรถยนต์

บทความครั้งนี้แอดมินขอพูดถึง Loop anti passback หรือระบบป้องกันการวนบัตรเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความต้องการของลูกค้าที่ใช้งานระบบไม้กั้นรถยนต์ โดยในชุดไม้กั้นรถยนต์แบบทาบบัตรและแบบ easy pass เรามักนิยมใช้ wiegand controller ในการควบคุมระบบ ซึ่งหนึ่งในความสามารถของ wiegand controller ดังกล่าวคือสามารถตั้งค่า anti passback หรือป้องกันการวนบัตรได้ (โหมด anti passback เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของ controller ที่เราสามารถตั้งค่าได้) แต่การตั้งค่า anti passback ใน wiegand controller จะเป็นการป้องกันการวนบัตรในระดับเบื้องต้นเท่านั้น กรณีที่เราต้องการป้องกันการวนบัตรแบบขั้นสูงเราจะต้องใช้ loop detector เข้ามาทำงานร่วมด้วย ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าเข้าในกระบวนการทำงานของ anti passback ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแอดมินขอนำเอาเรื่องราวการตั้งค่าในโหมดนี้มาอัพเดทให้ทราบกัน

รูปแบบการทำงานของระบบ anti passback หรือระบบป้องกันการวนบัตรในชุดไม้กั้นรถยนต์คือ ระบบจะถูกตั้งค่าให้เข้าแล้วต้องออกเสมอจึงจะเข้าใหม่ได้ หากเราเข้าแล้วไม่ออกหรือเราออกแล้วไม่เข้าเราก็จะไม่สามารถเข้าหรือออกซ้ำได้ ระบบจะไม่ตอบสนองใดๆ หากการดำเนินการดังกล่าวไม่ครบหลูบที่ตั้งค่าไว้ เช่น เราทาบบัตรเข้าไม้กั้นรถยนต์เปิดให้เราเข้าแต่เราไม่ทาบบัตรออกและจะทาบบัตรเพื่อเข้าซ้ำระบบไม้กั้นรถยนต์จะไม่สั่งการเพราะติดโหมด anti passback นั้นเอง.. เมื่อทาบเข้าแล้วจะต้องไปทาบออกเราจึงจะทาบบัตรเข้าได้อีกครั้ง เป็นต้น

เมื่อเราพอเข้าใจหลักการทำงานของระบบ anti passback แล้วเราก็มาทราบระดับในการตั้งค่า anti passback กันต่อเลย โดยการตั้งค่า anti passback มีด้วยกัน 2 ระดับคือ
ระดับที่ 1. การตั้งค่า anti passback ขั้นพื้นฐาน การตั้งค่าโหมด anti passback ในระดับนี้เราสามารถตั้งค่าได้เลยในโปรแกรม access control เมื่อเปิดโหมด anti passback เรียบร้อยแล้วให้เราอัพโหลดการตั้งค่าดังกล่าวเข้าสู่ wiegand controller ระบบไม้กั้นรถยนต์ก็จะเริ่มการทำงานในรูปแบบ anti passback ทันที.. การตั้งค่าในระดับนี้เป็นเพียงการป้องกันการวนบัตรเท่านั้นเราจะขับรถทาบบัตรเข้าและออกหรือเราจะเดินมาทาบบัตรเข้าและออกก็ได้ระบบจะตรวจสอบเพียงแค่การทาบบัตรเท่านั้น

ระดับที่ 2. การตั้งค่า anti passback โดยใช้ loop detector หรือเรียกอีกอย่างว่า loop anti passback การตั้งค่าด้วยวิธีนี้เป็นการตั้งค่าการวนบัตรแบบแอดว๊านซ์ โดยหลักการทำงานของระบบจะเป็นเช่นเดียวกันข้อ 1. คือจะต้องทาบบัตรเข้าและออกจึงจะทาบบัตรเข้าได้อีกครั้ง แต่ที่พิเศษกว่าคือตัว loop detector จะเป็นตัวตรวจจับโลหะประมาณว่าหากเราไม่ขับรถมาทาบบัตรระบบจะไม่ยอมรับการทาบบัตรครั้งนั้น เช่น เราจอดรถทิ้งไว้ในลานจอดและเดินไปทาบบัตรที่ขาออกเพื่อจะนำรถอีกคันเข้าลานจอดด้วย การกระทำเช่นนี้ไม่สามารถทำได้เพราะระบบไม้กั้นรถยนต์จะยอมรับการทำบัตรเฉพาะครั้งที่เราเอารถจอดบริเวณเครื่องอ่านบัตรและทาบบัตรออกเท่านั้น ดังนั้นหากไม่มีการขับรถเข้าและออกจริงๆ เราจะไม่สามารถทาบบัตรได้นั้นเอง เรียกได้ว่าป้องกันการวนบัตรได้แบบ 100% เลยทีเดียว

ดังที่แอดมินได้อธิบายไว้ในข้างต้น กรณีที่ลูกค้าต้องการระบบป้องกันการวานบัตรในชุดไม้กั้นรถยนต์อาจต้องแจ้งผู้จำหน่ายว่าระดับที่ต้องการป้องกันการวนบัตรเป็นแบบไหน เพื่อให้ผู้จำหน่ายจัดอุปกรณ์ให้ได้อย่างถูกต้องนั้นเอง
www.charoentech.com

เครื่องสแกนควบคุมประตู

2024-04-25 21:14:42

เมื่อพูดถึงระบบควบคุมประตูเรามักนึกถึงการใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าหรือเครื่องทาบบัตรเพื่อสั่งเปิดประตู สแกนผ่านสามารถเปิดประตูได้ สแกนไม่ผ่านประตูไม่เปิดให้ แอดมินพบว่ามีเพียงลูกค้าไม่กี่รายที่ทราบว่าระบบควบคุมประตูประกอบไปด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง อุปกรณ์ชิ้นไหนจำเป็นอุปกรณ์ชิ้นไหนไม่จำเป็น และเพื่อให้ลูกค้าทราบถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบกัน

การจัดการทะเบียนรถในระบบอ่านป้ายทะเบียน

2024-04-24 21:17:20

ระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียนเป็นระบบที่เลือกการทำงานได้ 2 แบบคือ ทำงานเองแบบ stand alone (ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์) และแบบใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผล ลูกค้าที่มีสมาชิกน้อยกว่าความสามารถในการเก็บทะเบียนรถของระบบสามารถใช้งานแบบ stand alone ได้ เช่น กล้องอ่านป้ายทะเบียน zkteco รุ่น lprc300 รองรับ 1,000 ทะเบียน หากโครงการมีสมาชิกน้อยกว่า 1,000 ทะเบียน

LPR Controller ในระบบอ่านป้ายทะเบียน

2024-04-21 21:07:43

ระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียนหรือระบบอ่านป้ายทะเบียน LPR เป็นระบบที่สามารถทำงานได้ 2 แบบคือ (1) ใช้กล้องอ่านป้ายทะเบียนประมวลผลสิทธิ์ของป้ายทะเบียนสมาชิกเอง (2) ใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลสิทธิ์ของป้ายทะเบียนสมาชิก การทำงานที่เหมือนกันของทั้ง 2 แบบคือ สมาชิกสามารถผ่านเข้าออกผ่านระบบไม้กั้นรถยนต์ได้อัตโนมัติ แต่ส่วนที่ต่างกันคือ การใช้กล้องอ่านป้ายทะเบียน