บทความ

วิธีสร้างกะการทำงานในเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ตอนที่ 1

หากเราต้องการให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าคำนวณเวลาทำงานให้แบบอัตโนมัติ เช่น สรุปเวลาวันทำงาน สรุปเวลาทำงาน สรุปขาด สรุปจำนวนวันลา สรุปจำนวนนาทีที่มาสายรวมถึงสรุปโอทีให้เราแบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องคำนวณข้อมูลใหม่อีกครั้งให้เสียเวลา สำหรับความต้องการนี้สามารถทำได้เฉพาะเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าที่ทำงานร่วมกับโปรแกรม premium time เท่านั้น หากผู้ใช้งานต้องการให้โปรแกรม premium time คำนวณเวลาให้เราจะต้องมีการตั้งตารางการทำงาน ตั้งกะการทำงานและผูกกะการทำงานให้พนักงานเสียก่อนโปรแกรมจึงจะให้รายงานคำนวณเวลาได้ ดังนั้นเพื่อแนะนำให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งกะการทำงานได้ด้วยตนเองแอดมินจึงขอสรุปวิธีตั้งกะการทำงานดังนี้

สำหรับการตั้งกะต้องบอกว่าเราจะมีการทำงานเป็นกะหรือไม่มีกะก็ตาม หากต้องการให้โปรแกรมคำนวณเวลาทำงานให้ สรุปขาด ลา มาสายและโอทีให้เราจะต้องตั้งกะการทำงานก่อนเท่านั้น ซึ่งก่อนการตั้งกะการทำงานให้เราเขียนรูปแบบเวลาเข้าและออกงานของเราก่อน เช่นต้องการให้สแกน 2 ช่วงเวลาคือ 08.00-17.00 น. หรือ 20.00-04.00 น. หรือเวลาอื่น หรือต้องการให้สแกน 4 ช่วงเวลา เช่น 08.00-12.00, 13.00-17.00 น. เป็นต้น เมื่อสรุปรูปแบบเวลาที่ต้องการได้แล้วเราจึงเริ่มดำเนินการตั้งค่าต่อ การตั้งค่านี้เป็นการดำเนินการที่โปรแกรม premium time เท่านั้น ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ในเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้า เครื่องสแกนมีหน้าที่เพียงแค่เปรียบเทียบตัวบุคคลเพื่อยืนยันตัวตนและบันทึกเวลาเข้าออกเท่านั้น

การตั้งค่ากะการทำงานจะอยู่ในเมนูตั้งตารางเวลา โดยมีด้วยกัน 3 ขั้นตอน
1. ตั้งตารางเวลา ซึ่งโปรแกรมจะมีรูปแบบตารางเวลาตัวอย่างขึ้นมาให้เราเลือก หากตารางเวลาที่เราต้องการไม่ตรงตามที่ตัวอยางแสดงเราสามารถเลือกแก้ไขหรือสร้างตารางเวลาใหม่ขึ้นมาได้เลย รายละเอียดในตารางเวลาแต่ละช่องอธิบายได้ดังนี้

ชื่อตารางเวลา : ชื่อที่ใช้เรียกตารางเวลานั้น
เวลาเข้างาน : เป็นเวลาที่เข้างานจริงๆ เช่น 08.30
เวลาเลิกงาน : เป็นเวลาที่เลิกงานจริงๆ เช่น 17.30
สายได้ : เป็นเวลาที่อนุญาตให้พนักงานเข้าสายได้ เช่น เวลาเข้างานคือ 08.00 สายได้ 10 นาที แสดงว่าหากพนักงานมาสแกนช่วงเวลา 08.07 แสดงว่าไม่สาย เวลาสายคือจะต้องสแกนหลัง 08.10 โปรแกรมจึงจะคำนวณเวลาสายให้
ออกก่อนได้ : หลักการเช่นเดียวกันกับ สายได้ แต่จะกลับกันเป็นช่วงเวลาเลิกงานแทน กรณีที่ไม่อนุญาตให้ออกก่อนหรือเข้าสายก็ให้กำหนดเป็น 0 ได้เลย
เริ่มเข้าได้ตั้งแต่ : เป็นช่วงเวลาที่เราบอกโปรแกรมว่าหากพนักงานมาสแกนลายนิ้วมือหรือสแกนใบหน้าในช่วงเวลาดังกล่าวแสดงว่าเป็นการสแกนเพื่อเข้างาน เช่น ให้เข้างานตอน 08.30 พนักงานน่าจะมาสแกนคนแรกๆ ช่วง 07.00 ดังนั้นเราสามารถกำหนดเวลาเริ่มเข้างานตั้งแต่ 06.30 เลยก็ได้ เพราะเมื่อมีการสแกนตั้งแต่ช่วงเวลา 06.30 เป็นต้นไปแสดงว่าการสแกนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นเป็นการสแกนเพื่อเข้างานนั้นเอง 
เข้างานได้ภายในเวลา : เป็นการกำหนดช่วงเวลาที่สามารถสแกนเพื่อเข้างานได้ว่าการเข้างานจะสิ้นสุดช่วงไหน เช่น หากเวลาเข้างาน 08.00 เริ่มเข้าได้ตั้งแต่ 06.30 สิ้นสุดการเข้างาน 11.00 น. แสดงว่าการสแกนเพื่อให้โปรแกรมรับรู้ว่านี้คือการสแกนเพื่อเข้างานจะสิ้นสุดตอน 11.00 น. นั้นเอง 
เลิกงานได้ตั้งแต่เวลา : เป็นการกำหนดว่าหากเราให้เลิกงาน 17.00 น. การสแกนเพื่อให้โปรแกรมรับรู้ว่านั้นคือการสแกนเพื่อเลิกงานตั้งแต่ช่วงไหน โดยปกติมักกำหนดกันที่ 14.30 น.
เลิกงานได้ภายในเวลา : เป็นการกำหนดเช่นเดียวกับให้เข้างานได้ภายในเวลา คือการสแกนครั้งหลังสุดเพื่อเลิกงานนั้นเอง ธรรมดาแล้วเรามักกำหนดกันไว้ที่ 23.30 น.

สำหรับการกำหนดช่วงเวลาให้เข้างานได้ ให้เข้างานภายในเวลา ให้เลิกงานได้ ให้เลิกงานภายในเวลาอาจฟังดูแล้วงงๆ หน่อย แต่กรณีที่เราตั้งค่าไม่ถูกต้อง ช่วงเวลาที่เรากำหนดไม่สอดคล้องกับเวลาที่พนักงานสแกนจริง หรือเวลาที่พนักงานสแกนไม่อยู่ในของเขตเวลาที่เราตั้งโปรแกรมก็ไม่สามารถคำนวณเวลาให้เราได้เช่นกัน แต่เมื่อการตั้งในข้อนี้แล้วเสร็จก็ให้ดำเนินการตั้งค่าในลำดับที่ 2 ได้เลย สำหรับการตั้งค่าในส่วนที่ 2 พบกันในบทความถัดไป
www.charoentech.com